• เซิร์ฟเวอร์ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

หากการประมวลผลข้อมูล การเข้าถึงไฟล์ หรือการทำงานผ่านระบบเครือข่ายเริ่มช้าลง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเซิร์ฟเวอร์ของคุณไม่สามารถรองรับภาระงานในปัจจุบันได้อีกต่อไป ควรตรวจสอบทรัพยากรต่างๆ เช่น CPU, RAM หรือพื้นที่จัดเก็บ หากใช้งานใกล้ถึงขีดจำกัด การอัปเกรดอุปกรณ์อาจเป็นทางออก

• พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่เพียงพอ

เมื่อพื้นที่ในเซิร์ฟเวอร์เต็มจนไม่สามารถเพิ่มข้อมูลใหม่ได้ อาจทำให้การทำงานล่าช้าหรือเกิดปัญหาข้อมูลสูญหาย ควรพิจารณาเพิ่มพื้นที่จัดเก็บหรือย้ายข้อมูลบางส่วนไปยัง Cloud เพื่อช่วยลดภาระของหน่วยความจำภายใน และลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับข้อมูล เช่น ข้อมูลสูญหาย

• ระบบล่มบ่อยครั้ง

หากเซิร์ฟเวอร์มีการรีสตาร์ทหรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณว่าฮาร์ดแวร์เริ่มเสื่อมสภาพหรือซอฟต์แวร์เริ่มล้าสมัยแล้ว ควรมีการตรวจสอบอย่างละเอียด หากการซ่อมบำรุงเริ่มมีค่าใช้จ่ายที่สูง อาจถึงเวลาพิจารณา  “เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใหม่”

• ไม่สามารถรองรับซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ได้

เมื่อระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ที่ธุรกิจของคุณต้องการใช้งานไม่สามารถติดตั้งหรือทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ปัจจุบันได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเซิร์ฟเวอร์ของคุณเก่าหรือไม่รองรับการอัปเดต ควรพิจารณาอัปเกรดหรือเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับความต้องการใหม่ๆ

• ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มสูงขึ้น

หากค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นจนใกล้เคียงกับราคาของการซื้อใหม่ การเปลี่ยนอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว คำนวณค่าใช้จ่ายระหว่างการซ่อมและการเปลี่ยนใหม่อาจเป็นเลือกทางที่เหมาะสมกว่า

• ขาดการสนับสนุนจากผู้ผลิต (End of Support)

หากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์หยุดให้การสนับสนุน เช่น การอัปเดตความปลอดภัย หรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ เซิร์ฟเวอร์ของคุณอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากภัยคุกคาม ควรอัปเกรดหรือเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใหม่เพื่อให้ธุรกิจของคุณได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามต่างๆ