ในปัจจุบันไวรัสและมัลแวร์ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องที่ตกเป็นเป้าหมาย แม้แต่โปรแกรมที่เราใช้งานอยู่ทุกวันก็เสี่ยงโดนโจมตีได้! หากคุณเคยเจอปัญหาโปรแกรมที่อยู่ๆก็เปิดไม่ได้ ทำงานผิดปกติ หรือมีการทำงานบางอย่างที่น่าสงสัย นั่นอาจเป็นเพราะไวรัสหรือมัลแวร์กำลังซ่อนตัวอยู่ภายในเครื่องของคุณก็เป็นได้
สัญญาณที่บ่งบอกว่า “โปรแกรมของคุณติดไวรัส/มัลแวร์” เข้าให้แล้ว
1. โปรแกรมมีการทำงานที่ผิดปกติหรือค้างบ่อย
หากโปรแกรมที่เคยใช้งานได้อย่างราบรื่นกลับเริ่มมีปัญหา เช่น มีอาการค้างระหว่างการใช้งาน โปรแกรมปิดเอง หรือมีการแสดงผลลัพธ์ที่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่ามัลแวร์หรือไวรัสได้เจาะเข้ามาในโปรแกรมและกำลังเปลี่ยนแปลงการทำงานของมัน
2. มีโฆษณาป๊อปอัพแปลกๆ ปรากฏขึ้นในโปรแกรม
เมื่อเปิดโปรแกรมแล้วพบข้อความแจ้งเตือนหรือโฆษณาป๊อปอัพแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคย เช่น คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือข้อความที่มีลิงก์เชิญชวนให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติม คุณควรระวังเพราะมัลแวร์มักใช้วิธีนี้เพื่อหลอกล่อให้ติดตั้งไฟล์อันตรายเพิ่มเติม
3. โปรแกรมเรียกใช้อินเทอร์เน็ตหรือทรัพยากรระบบมากผิดปกติ
หากโปรแกรมที่ปกติใช้ทรัพยากรระบบเพียงเล็กน้อยกลับมีการใช้งาน CPU, RAM หรือแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตสูงผิดปกติ ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้เปิดฟังก์ชันหนักๆ นั่นอาจเป็นเพราะไวรัสกำลังใช้โปรแกรมของคุณเพื่อส่งข้อมูลออกไป
4. โปรแกรมทำงานเองโดยไม่ได้เปิด
โปรแกรมที่เริ่มทำงานเองอัตโนมัติโดยไม่ได้ตั้งค่าไว้ หรือทำงานตอนเปิดเครื่องทั้งๆ ที่ไม่เคยตั้งค่าให้ทำเช่นนั้น เป็นสัญญาณว่ามีไวรัสหรือมัลแวร์ที่พยายามแทรกตัวเข้าไปควบคุม
5. โปรแกรมถูกตรวจพบโดยแอนตี้ไวรัส
หากแอนตี้ไวรัสแจ้งเตือนว่าโปรแกรมมีพฤติกรรมคล้ายมัลแวร์หรือไวรัส นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าควรตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขโดยทันที เช่น การลบโปรแกรมออกและติดตั้งใหม่
ขั้นตอนแก้ไขเบื้องต้น เมื่อโปรแกรมติดไวรัสหรือมัลแวร์
1. หยุดใช้งานโปรแกรมที่น่าสงสัยทันที
หากคุณสังเกตว่าโปรแกรมมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น ทำงานช้าผิดปกติ เปิดหน้าต่างแปลกๆ หรือส่งข้อความอัตโนมัติ ให้หยุดใช้งานและปิดโปรแกรมทันที
2. สแกนด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้
- อัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- เลือกการสแกนแบบเจาะจง (Custom Scan) และระบุโฟลเดอร์หรือไฟล์ของโปรแกรมที่สงสัย
- ลบหรือกักกันไฟล์ที่ติดไวรัสตามคำแนะนำ
3. ถอนการติดตั้งโปรแกรมที่มีปัญหา
หากโปรแกรมได้รับความเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ถอนการติดตั้งออกจากระบบ
4. ติดตั้งโปรแกรมใหม่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ผู้พัฒนาโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าไฟล์นั้นปราศจากไวรัสหรือมัลแวร์
5. ตรวจสอบไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม
ไวรัสบางชนิดอาจสร้างไฟล์ซ่อนหรือไฟล์ปลอมขึ้นมาในโฟลเดอร์ของโปรแกรม ตรวจสอบและลบไฟล์ที่ดูผิดปกติ
6. ตรวจสอบการตั้งค่าไฟร์วอลล์และสิทธิ์ของโปรแกรม
โปรแกรมที่ติดไวรัสอาจเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการเชื่อมต่อเครือข่าย ตรวจสอบสิทธิ์ของโปรแกรมในไฟร์วอลล์เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
วิธีป้องกันไม่ให้โดนโปรแกรมติดไวรัสอีกต่อไป
1. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ถูกลิขสิทธิ์และเชื่อถือได้
โปรแกรมป้องกันไวรัสไม่เพียงแค่ช่วยในการตรวจจับและลบไวรัสออกจากระบบ แต่ยังป้องกันมัลแวร์ที่พยายามโจมตีระบบของคุณแบบเรียลไทม์ การใช้โปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์ช่วยให้คุณได้รับการอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสล่าสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถป้องกันไวรัสรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือซื้อโปรแกรมถูกลิขสิทธิ์ เท่านั้น
การดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือจากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการหรือตลาดซอฟต์แวร์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น Microsoft Store หรือ Mac App Store จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
3. อัปเดตโปรแกรมและระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ
นักพัฒนาซอฟต์แวร์มักจะมีการปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและจัดการกับช่องโหว่ที่แฮกเกอร์อาจจะใช้ในการโจมตี การเพิกเฉยต่อการอัปเดตอาจทำให้ระบบของคุณกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายต่อการโจมตี ดังนั้น การเปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัตจึงเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้คุณไม่พลาดการปรับปรุงที่สำคัญ
4. หลีกเลี่ยงการใช้งานโปรแกรม/ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์
การใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดไวรัสหรือมัลแวร์ที่แอบแฝงอยู่ในโปรแกรมเหล่านั้น เนื่องจากโปรแกรมไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกขโมย หรือระบบของคุณเกิดความเสียหาย การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากไวรัสและมัลแวร์ แต่ยังสนับสนุนผู้พัฒนาให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
5. สำรองข้อมูลโปรแกรมและไฟล์สำคัญไว้อย่างสม่ำเสมอ
แม้คุณจะมีมาตรการป้องกันที่ดี แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีโอกาสที่ไวรัสหรือมัลแวร์จะโจมตีสำเร็จ การสำรองข้อมูลช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟล์งานเอกสารหรือข้อมูลสำคัญที่ไม่สามารถกู้คืนได้ การสำรองข้อมูลอัตโนมัติไปยังฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกหรือระบบคลาวด์ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะยังคงปลอดภัยไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาอะไร
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อคอมพิวเตอร์ติดไวรัส
อย่าติดตั้งโปรแกรม Anti-Virus หลายตัวพร้อมกัน
การติดตั้งโปรแกรม Anti-Virus หลายตัวไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจาก
- โปรแกรมเหล่านี้มักตรวจจับไวรัสและมัลแวร์ประเภทเดียวกัน
- การทำงานของ Anti-Virus หลายตัวพร้อมกันอาจทำให้ระบบช้าลง หรือเกิดความขัดแย้งในการทำงานได้
โดยโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้เพียงตัวเดียว และมีการอัปเดตอยู่เสมอก็เพียงพอที่จะป้องกันไวรัส/มัลแวร์ หรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ครอบคลุมแล้ว
โปรแกรมติดไวรัสอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและความปลอดภัยของข้อมูล แต่คุณสามารถแก้ไขและป้องกันได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม หมั่นอัปเดตโปรแกรม ป้องกันด้วยซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ และใช้งานโปรแกรมจากแหล่งที่ปลอดภัยเท่านั้น ความระมัดระวังเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
#ithero #itsupport #itsolution #ไอทีฮีโร่ #ไอทีซัพพอร์ท #วางระบบไอที #แก้ไขปัญหาไอที #อัพเดทไอที #อัพเดทซอฟต์แวร์ #บริการไอทีซัพพอร์ท #itservices
มีปัญหาไอที นึกถึง IT-Hero
เราคือผู้ให้บริการดูแลและแก้ไขปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ IT Support & MA ซึ่งเราคือตัวกลางที่จะช่วย SMEs แก้ไขปัญหาด้านไอทีแบบครบวงจร และช่วยปรับธุรกิจของคุณให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัลด้วยบริการด้านไอที
ครบ จบ ทุกโซลูชั่น
- วิเคราะห์พร้อมออกแบบระบบให้เหมาะกับธุรกิจคุณ
- ดูแลแก้ไขปัญหาและจำหน่ายทั้ง Hardware, Software
- ออกแบบติดตั้งระบบสายนำสัญญาณเครือข่าย Network
- ออกแบบ Website, Application
- ระบบ Cloud Solution
- ระบบ ERP Implement
ติดต่องานบริการทางด้านไอที ได้ที่
Email : [email protected]
Tel. : 088-809-0910 to 16
Line OA : @ithero
#ithero #itsupport #itsolution #ดูแลระบบไอที#ไอทีฮีโร่ #ไอทีซัพพอร์ท #วางระบบไอที #แก้ไขปัญหาไอที #อัพเดทไอที #อัพเดทซอฟต์แวร์ #บริการไอทีซัพพอร์ท #itservices #อัพเดทความปลอดภัย #ไมโครซอฟต์ #security policy #microsoft entra id #ความปลอดภัย